ดูแลสุขภาพจิตในช่วงโควิดกัน

เมื่อสภาพจิตใจคุณดีอะไรๆก็ย่อมดี

ไม่แปลกที่ตอนนี้หลายๆคนอาจรู้สึกถึงความสถารการณ์ต่างๆ ที่กดดันรอบๆข้าง ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยทาง เศรษฐกิจ การเมือง ค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับ และเรายังต้องคอยระวังกับโรคโควิตที่แพร่กระจายในแต่ละวัน

ซึ่งสิ่งที่คุณใส่ใจ มากที่สุดนั่นคือ สภาพจิตใจ ซึ่งคุณคงเคยได้ยินคำว่า จิตเป็นนายกายเป็นบ่าว ซึ่งนอกจาก ความแข็งแรงของสภาพจิตใจคุณ จะควบคุมความคิดแล้ว สุขภาพใจที่ดียังสามารถควบคุมฮอร์โมนต่อมไร้ท่อ รวมไปถึงทำให้สุขภาพร่างกายของคุณดีขึ้นมาอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การนอนหลับที่ดีขึ้น การย่อยอาหารดีขึ้น หน้าตาผ่องใสจนเห็นได้ชัด

คุณจะเห็นภาพชัดขึ้นจากตัวอย่างของเรื่องนี้!

มีหลายๆงานวิจัยที่รักษาคนโดยแกล้งหลอกว่าได้ให้ยา ทั้งๆที่ไม่ได้ให้อะไรเลย ทางฝรั่งเรียกว่า “Placebo effect” โดยเคยมีตัวอย่างแม้แต่กลุ่มคนที่ทรมานในโรคมะเร็ง โดยตัวอย่างเป็นการให้ยาหลอกแก่ผู้ป่วย ระยะเวลา 3 อาทิตย์ต่อเนื่อง ซึ่งผลการทดลองเป็นที่น่าพอใจคือ อาการผู้ป่วยดีขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ

ซึ่งเมื่อแสกนส่วนสมองของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยยาหลอกนั้นจะเห็นว่าโครงสร้างฮอร์โมนในสมองนั้นเปลี่ยนไป โดยที่มีสารเอนดอร์ฟิน ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ออกฤทธิ์คล้ายๆกับ มอร์ฟีนเพิ่มมากขึ้น

เห็นได้ชัดว่าสมองของเรานั้นมีผลต่อการควบคุมร่ายกายเรานั่นเอง คุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Placebo effect ได้ที่ลิงค์นี้

7 วิธีดูแลจิตใจต่อต้านโรคซึมเศร้าง่ายๆที่ทำได้ด้วยตัวเอง

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ ซึ่งการออกกำลังกายนั้นล้วนมีส่วนสำคัญเป็นอันดับต้นๆพื้นฐาน ของการดูแลร่างกายและจิตใจของคุณอยู่แล้ว โดยที่ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย เเบบใช้แรงต้าน Weight training หรือ จะเป็นการคาร์ดิโอแบบที่ต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อคุณออกกำลังกายปริมาณที่เหมาะสมล้วนทำให้ร่างกาย หลั่งสารเอนดอร์ฟินให้สมองรู้สึกดี และมีหลายๆงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศ ได้กล่าวไว้ว่า การออกกำลังกายช่วยการปรับเคมีในสมอง และเป็นการช่วยรักษา ผู้ป่วยที่มีอาการโรคซึมเศร้านั่นเอง
  • เล่นกับสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าคุณจะเป็นทาสหมา หรือ ทาสแมว น้องๆสัตว์เลี้ยงที่บ้านคุณนั้นมีส่วนช่วยในการจัดการอารมณ์เป็นอย่างมาก เนื่องจากมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การที่อยู่คนเดียวนานๆย่อมอาจมีผลทำให้จิตใจคุณอาจรู้สึกหดหู่ได้ แต่หากคุณมีการเล่นกับสัตว์เลี้ยง รู้หรือไม่ ฮอร์โมนในสมองคุณจะรู้สึกสงบผ่อนคลายมากขึ้น และที่น่าสนใจคือมีหลายๆงานวิจัยพบว่า การเล่นกับสุนัขทำให้ความดันในเลือดและ ระดับไขมันคอเลสเตอรอลในตัวคุณลดลงอีกด้วย ซึ่งงานวิจัยนี้มีผลการพิสูจน์ออกมามายมาย โดยคุณสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ https://www.helpguide.org/articles/mental-health/mood-boosting-power-of-dogs.htm
  • เขียนไดอารีระบายความในใจ การเขียนสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวัน นอกจากจะทำให้ตัวคุณรู้ถึงสภาวะอารมณ์ของคุณในแต่ละวันแล้วยังทำให้คุณเห็นอารมณ์ของคุณได้ชัดยิ่งขึ้นเป็นรูปธรรมมากขึ้น ว่าในแต่ละวันนั้นเกิดอะไรขึ้น และจะสามารถหาการจัดการได้อย่างไร ยกตัวอย่างเช่นวันนี้ เจอคนขับรถปาดหน้าทำให้คุณโมโหมาก โอเคถ้าจะพูดแบบไม่โลกสวยใครๆก็เคยหงุดหงิดกับอารมณ์นี้แต่ถ้าเราเก็บมาอยู่ที่ตัวเองนานคุณที่ทุกข์ใจนั่นคือตัวคุณ ลองสลับคิดว่า เค้าคงรีบไปหาหมอเนื่องจากต้องพาใครที่บ้านป่วยหนักเลยทำให้การขับรถเป็นแบบนั้น หากลองคิดแบบนี้อาจทำให้อารมณ์คุณรู้สึกดีขึ้นแน่นอน แม้บางครั้งคุณอาจติดว่า เป็นการหลอกตัวเองรึเปล่า แต่ถ้าในชีวิตการหลอกตัวเองมีแต่คำด่าทอย่อมไม่เกิดประโยชน์อะไร แต่ถ้าบางครั้งเราคิดต่างมุมเพื่อให้ตัวเองสภาพจิตใจดีขึ้นก็ทำไปเถอะครับ เพราะเป้าหมายคือเราต้องดูแลจิตใจตัวเองให้ดี
  • โทรคุยระบายกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนสนิท หลายๆครั้งที่คุณ อาจจะอยากเก็บปัญหาไว้กับตัวเองย่อมทำให้คุณจมปลักกับปัญหานั้นยิ่งทำให้อารมณ์นั้นดำดิ่ง การที่เราโทรคุยระบายกับคนที่ไว้ใจได้ โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่มีแต่ความหวังดีให้คุณเสมอ คุณจะได้ปลดปล่อยอารมณ์ที่ค้างค้าในจิตใจ และในหลายๆครั้งยังทำให้คุณได้ ไอเดีย ใหม่ๆจากคนที่คุณระบายปัญหานั้นอีกด้วยเพราะมุมมองกับผู้ที่เผชิญปัญหาและ ผู้ที่กำลังมองปัญหา ย่อมอยู่คนละมุม ยังไงหลายหัวย่อมดีกว่าหัวเดียวนั่นเอง
  • ดูหนังเรื่องโปรดที่ชอบ แม้ในหลายๆครั้งอาจจะเป็นการฉายหนังซ้ำที่คุณอาจเคยดูแล้ว แต่ที่แน่ๆมันทำให้สภาพจิตใจคุณดีขึ้นอย่างแน่นอน และดีกว่าการอยู่กับอารมณ์ที่ไม่ดี โดยเฉพาะหากได้ดูหนังตลกทำให้สมองคุณหลั่งสารแห่งความสุขชื่อว่า สารโดพามีน ยิ่งทำให้คุณและคนในครอบครัวได้มีเสียงหัวเราะไปด้วยกันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย
  • ปลูกต้นไม้ การได้อยู่กับธรรมชาตินอกจากทำให้สายตาคุณได้ผ่อนคลาย การใช้เวลากับต้นไม้ยังได้ออกซิเจนบริสุทธิ์ยังช่วยให้สารอนุมูลอิสระในตัวคุณลดน้อยลงอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น สารสีเขียวในต้นไม้ยังทำให้สมองเรารู้สึกดีอีกด้วย โดยงานวิจัยทั่วโลกได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าสีเขียวในธรรมชาติช่วยให้สมองมนุษย์เรา มีสมาธิและการจดจำดีอีกด้วย โดยเฉพาะเด็กๆยุคใหม่ หากพ่อแม่ได้ให้ลูกๆได้ใช้เวลาอยู่กับธรรมชาติมากกว่าการอยู่บนหน้าจอมือถือ ย่อมทำให้สมาธิการเรียนรู้ของเด็กนั้นดียิ่งกว่าเด็กๆที่ติดเกมส์ติดไอแพด
  • หลับตาฟังเพลงบรรเลง มีงานวิจัยทั่วโลก ได้กล่าวไว้ว่าดนตรีมีผลดีต่อสมองมาก นอกจากที่ทำให้ลดระดับความเครียดในสมอง การฟังเพลง บรรเลงขณะทำงานอ่านหนังสือยังช่วยกระตุ้นสมาธิการเรียนรู้ให้สมองจดจ่อกับสิ่งที่ทำมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่แปลกที่หลายๆที่ทำงาน นำเพลงบรรเลงมาเปิดให้พนักงานในที่ทำงาน เพราะเสียงดนตรีแต่ละประเภทที่เปิดนั้นส่งผลต่อคลื่นในสมองได้อย่างมากมาย เดี๋ยวจะลองแปะลิงค์เพลง ที่ทำให้สมองผ่อนคลายให้ลองฟังกันด้านล่างนะครับ ลองฟังพร้อมกับกาแฟแก้วโปรดคุณดู

แล้วเราจะผ่านสถานการณ์นี้ไปด้วยกัน

ด้วยเหตุการณ์ที่เราทุกคนย่อมเดินทางไปที่ไหนๆด้วยความยากลำบาก และต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน แต่เราก็สามารถจัดการอารมณ์ตัวคุณเองได้เมื่ออยู่ที่บ้าน เล่นกับสัตว์เลี้ยง ซึ่งในแต่ละวันคอยระวังไม่ให้เก็บกักอารมณ์อยู่กับปัญหา ไม่ว่าอาจจะเขียนระบายลงในกระดาษหรือกับคนที่คุณรักและไว้ใจ ใช้เวลาอยู่กับสิ่งที่คุณชอบ อยู่กับธรรมชาติมากขึ้น เสพสิ่งดีๆมากขึ้น

และเมื่อสุขภาพใจของคุณดีขึ้นคุณจะรู้สึกดีกับตัวเองมากยิ่งขึ้น และพร้อมที่จะสู้กับทุกๆปัญหามากยิ่งขึ้นนั่นเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *